Title: 証 Akashi
Artist: lecca
Album: Power Butterfly
強い風がほほにあてて行ったのは夏の匂い
tsuyoi kaze ga hoho ni atete itta no wa natsu no nioi
それにのせてかすかに胸よぎったのはあの日のこと
sore ni nosete kasuka ni mune yogitta no wa ano hi no koto
あんなにはしゃぎすぎて 人に言えないバカもしたよね
anna ni hashagi sugite hito ni ienai BAKA mo shita yo ne
今じゃあんなふうに過ごすこともない
ima ja anna fuu ni sugosu koto monai
しかられるからって 強く変わって
*shikarareru karatte tsuyoku kawatte
いつも笑ってみせたけど
itsumo waratte miseta kedo
頭じゃわかっていても「まだ」って
atama ja wakatte itemo 'mada' tte
叫びたくって 空にらんで
sakebi takutte sora nirande*
いつも走り続けてた 一人じゃ行けないその先に行けたのは
**itsumo hashiri tsuzuketeta hitori ja ikenai sono saki ni iketa no wa
そばに同じ景色を見てる君がいたから
soba ni onaji keshiki wo miteru kimi ga ita kara (dokomademo)
とめどなく流れてった 時を止めてしまいたいと思うくらいに
tomedonaku nagaretetta toki wo tomete shimaitai to omou kurai ni
一緒に生きる時間を愛してた
issho ni ikiru jikan wo aishiteta**
長く過ごして君がまるで体の一部みたいになって
nagaku sugoshite kimi ga marude karada no ichibu mitai ni natte
時に自分にするみたいにぞんざいにする
toki ni jibun ni suru mitai ni zonzai ni suru
別れが来るとわかっていたらもっときっと何かできたのに
wakare ga kuru to wakatte itara motto kitto nanika dekita noni
そんなぼくにも君は笑いかけてくれた
sonna boku ni mo kimi wa warai kakete kureta
しかられるからって 強く変わって
*shikarareru karatte tsuyoku kawatte
いつも笑ってみせたけど
itsumo waratte miseta kedo
頭じゃわかっていても「まだ」って
atama ja wakatte itemo 'mada' tte
叫びたくって 空にらんで
sakebi takutte sora nirande*
いつも走り続けてた 一人じゃ行けないその先に行けたのは
**itsumo hashiri tsuzuketeta hitori ja ikenai sono saki ni iketa no wa
そばに同じ景色を見てる君がいたから
soba ni onaji keshiki wo miteru kimi ga ita kara (dokomademo)
とめどなく流れてった 時を止めてしまいたいと思うくらいに
tomedonaku nagaretetta toki wo tomete shimaitai to omou kurai ni
一緒に生きる時間を愛してた
issho ni ikiru jikan wo aishiteta**
体の一部を失ってみたら ひどく毎日空虚になるかな
karada no ichibu wo ushinatte mitara hidoku mainichi kuukyo ni naru kana
って思っていたらそればかりでもなく
tte omotte itara sore bakari demo naku
かえってあの日より穏やかになってく
kaette ano hi yori odayaka ni natteku
君が残してくれたものの
kimi ga nokoshite kureta mono no
中で何よりも力になるのは
naka de nani yorimo chikara ni naru no wa
動きなさいな、って告げてるよな
ugoki nasai na, tte tsugeteru yona
お日様みたいな笑い顔
ohi-sama mitai na warai gao
いつも走り続けてた 一人じゃ行けないその先に行けたのは
**itsumo hashiri tsuzuketeta hitori ja ikenai sono saki ni iketa no wa
そばに同じ景色を見てる君がいたから
soba ni onaji keshiki wo miteru kimi ga ita kara (dokomademo)
とめどなく流れてった 時を止めてしまいたいと思うくらいに
tomedonaku nagaretetta toki wo tomete shimaitai to omou kurai ni
一緒に生きる時間を愛してた
issho ni ikiru jikan wo aishiteta**
そばにいて 抱きしめて
soba ni ite dakishimete
過ごした晴れわたるあの午後は
sugoshita harewataru ano gogo wa
強い光で二人空に焼きつけて
tsuyoi hikari de futari sora ni yakitsukete
残るのは遠い空
nokoru no wa tooi sora
目に浮かぶ笑顔と君への想い
me ni ukabu egao to kimi e no omoi
どの顔も笑ってる それが二人でいた証
dono kao mo waratteru sore ga futari de ita akashi
Kanji lyrics from
Roumaji lyrics from
English translation from
with edits
-----------------------------------------------------
The strong wind blowing against my cheeks brings the scent of summer
making what happened that day faintly pass through my heart
We had too much fun and did stupid things we could never tell anyone else
Though it’s not like that at all now
*’I’ll become strong because you’ll scold me if I don’t’
Even though I only ever showed you my smile
Though I understand in my head, wanting to shout
‘Not yet!’ I glare at the sky*
**I always kept on running yet
the reason I was able to keep going when I realised couldn’t live all alone
was because you were there with me looking at the same things (forever)
So much did I love the days we spent together
I wanted to stop the time that flowed by without end**
We spent so long together it was like you became a part of my body
in time I came to clumsily hope I’d someday make you mine
Even though surely there was something I could have done if I had known we were to part
you smiled even for the me that was like that
*’I’ll become strong because you’ll scold me if I don’t’
Even though I only ever showed you my smile
Though I understand in my head, wanting to shout
‘Not yet!’ I glare at the sky*
**I always kept on running yet
the reason I was able to keep going when I realised couldn’t live all alone
was because you were there with me looking at the same things (forever)
So much did I love the days we spent together
I wanted to stop the time that flowed by without end**
If you think that losing a part of ones’ self would make everyday cruelly empty
It’s not always so
On the contrary, I’ve become even more calm since that day
In the midst of all the things that you gave me
what gives me strength more than anything
is a smile like that of the sun telling
me to ‘Please keep going’
**I always kept on running yet
the reason I was able to keep going when I realised couldn’t live all alone
was because you were there with me looking at the same things (forever)
So much did I love the days we spent together
I wanted to stop the time that flowed by without end**
That clear afternoon we spent cuddled close together
burned with a strong light into our skies
leaving behind a far away sky
Whenever I see a smiling face I think of you
They’re all smiling, that is the proof we were together
-----------------------------------------------------
สายลมแรงที่กำลังพัดใส่แก้มฉัน นำพามาซึ่งกลิ่นไอแห่งฤดูร้อน
ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น ผ่านกลับเข้ามาในใจฉันอย่างเลือนลาง
เราสนุกกันเกินไป และได้กระทำเรื่องโง่ ๆ บางสิ่งที่เราไม่สามารถบอกกับใครอื่นได้
ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้มันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว
"ฉันจะเข้มแข็ง เพราะเธอจะดุฉันถ้าฉันไม่เป็นเช่นนั้น"
ถึงแม้ฉันเคยแสดงเพียงรอยยิ้มของฉันให้เธอเห็น
ถึงฉันจะเข้าใจมันในใจของฉัน อยากที่จะตะโกนออกไปว่า
"อย่าเพิ่ง!" ฉันถลึงตาใส่สวรรค์
**ฉันยังคงวิ่งต่อไปเสมอ ถึงแม้ว่า
เหตุผลที่ฉันสามารถมีชีวิตต่อไป ในเวลาที่ฉันตระหนักว่า ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ นั้น
จะเป็นเพราะว่าเธอนั้นอยู่ที่นั่นกับฉัน ได้ดูได้มองสิ่งเดียวกันกับฉัน (ตลอดไป)
ฉันรักวันเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันมากเสียจน
ฉันอยากจะหยุดเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างไม่หยุดหย่อน
เราใช้วันเวลาด้วยกันนานเสียจน มันเหมือนกับว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของกายฉัน
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันหวังอย่างโง่ ๆ ว่าสักวันฉันจะทำให้เธอเป็นของฉันได้
ถึงแม้ว่ามันจะต้องมีอะไรสักอย่าง ที่ฉันสามารถที่จะทำได้ หากว่าฉันรู้ว่าเราจะต้องแยกจากกัน
เธอยิ้มให้แม้แต่กับตัวฉันที่ทำตัวเช่นนั้น
"ฉันจะเข้มแข็ง เพราะเธอจะดุฉันถ้าฉันไม่เป็นเช่นนั้น"
ถึงแม้ฉันเคยแสดงเพียงรอยยิ้มของฉันให้เธอเห็น
ถึงฉันจะเข้าใจมันในใจของฉัน อยากที่จะตะโกนออกไปว่า
"อย่าเพิ่ง!" ฉันถลึงตาใส่สวรรค์
**ฉันยังคงวิ่งต่อไปเสมอ ถึงแม้ว่า
เหตุผลที่ฉันสามารถมีชีวิตต่อไป ในเวลาที่ฉันตระหนักว่า ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ นั้น
จะเป็นเพราะว่าเธอนั้นอยู่ที่นั่นกับฉัน ได้ดูได้มองสิ่งเดียวกันกับฉัน (ตลอดไป)
ฉันรักวันเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันมากเสียจน
ฉันอยากจะหยุดเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างไม่หยุดหย่อน
หากเธอคิดว่าการสูญเสียส่วนหนึ่งของตนเอง จะทำให้แต่ละวันมันว่างเปล่าไร้ความหมายอย่างโหดร้าย
มันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไปหรอก
ตรงกันข้าม ฉันกลับสงบลงมากกว่าเดิมเสียอีก ตั้งแต่วันนั้น
ท่ามกลางสื่งต่าง ๆ ที่เธอได้มอบให้แก่ฉันทั้งหลายทั้งปวง
สิ่งที่มอบพลังความเข้มแข็งให้แก่ฉันมากกว่าสิ่งอื่นใด
ก็คือรอยยิ้มที่เหมือนดั่งแสงตะวัน บอกกับ
ฉันว่า"ได้โปรดมีชีวิตอยู่ต่อไป"
**ฉันยังคงวิ่งต่อไปเสมอ ถึงแม้ว่า
เหตุผลที่ฉันสามารถมีชีวิตต่อไป ในเวลาที่ฉันตระหนักว่า ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ นั้น
จะเป็นเพราะว่าเธอนั้นอยู่ที่นั่นกับฉัน ได้ดูได้มองสิ่งเดียวกันกับฉัน (ตลอดไป)
ฉันรักวันเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันมากเสียจน
ฉันอยากจะหยุดเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างไม่หยุดหย่อน
บ่ายที่สดใสวันนั้น ที่เราได้ใช้เวลากกกอดแนบชิดกัน
ลุกโชนด้วยแสงเจิดจ้าบนสวรรค์ของเรา
ทิ้งท้องฟ้าไกล ๆ นั่นไว้เบื้องหลัง
ไม่ว่าเมื่อใดที่ฉันเห็นใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้ม ฉันคิดถึงเธอ
และมันเป็นรอยยิ้มไปเสียทั้งหมด นั่นแหละคือหลักฐานที่เราได้เคยอยู่ด้วยกัน
No comments:
Post a Comment