Title: コロニー COLONY
Artist: BUMP OF CHICKEN
Album: Butterflies
どこだろう 今痛んだのは
Doko darou ima itan da no wa
手を当ててから解らなくなる
te wo atete kara wakaranaku naru
名前のない 涙がこぼれて
namae no nai namida ga koborete
体の壁が解らなくなる
karada no kabe ga wakaranaku naru
世界は蜃気楼 揺らいで消えそう
sekai wa shinkirou yurai de kiesou
呑み込まれて連れて行かれそう
nomikomarete tsurete ikaresou
重なった 優しい温もりに
kasanatta yasashii nukumori ni
しがみついたまま震えた
shigamitsuita mama furueta
聴こえた命の音は
kikoeta inochi no oto wa
よく似ているけど違っていて
yoku ni te iru kedo chigatte ite
雨に変わり何度も肌を叩いた
ame ni kawari nando mo hada wo tataita
閉じた目に 真昼の恒星
tojita me ni mahiru no kousei
キラキラ無数に散らばった
kirakira musuu ni chirabatta
その中のひとつとひとつ それだけ
sono naka no hitotsu to hitotsu sore dake
見つけた事 失くした事
mitsuketa koto nakushita koto
心が作った街で起こった事
kokoro ga tsukutta machi de okotta koto
こんなに今生きているのに
konna ni ima ikiteru noni
嘘みたい 掌で教えて
uso mitai tenohira de oshiete
何もない あんなに抱えていた
nanimo nai anna ni kakaete ita
形を守る言葉の盾
katachi wo mamoru kotoba no tate
残っていない 弱くても持っていた
nokotte inai yowakute mo motte ita
道切り開く意思の剣
michi kirihiraku ishi no fuuki
世界は蜃気楼 張りぼての城
sekai wa shinkirou haribote no shiro
消えそうで消えない生き物
kiesou de kienai ikimono
ありがとう あなたは光
arigatou anata wa hikari
それだけが続ける理由
sore dake ga tsuzukeru riyuu
聴こえた自分の音は
kikoeta jibun no oto wa
正体を当然知っていて
shoutai wo touzen shitte ite
響いたら正しい矢になって戻ってきた
hibiitara tadashii ya ni natte modotte kita
卑怯者 鏡の奥に
hikyou mono kagami no oku ni
気付く前に目を背けた
kizuku mae ni me wo somuketa
助けを呼ぶひとつとひとつ
tasuke wo yobu hitotsu to hitotsu
狙い合う
neraiau
生まれた事 知らせた声
umareta koto shiraseta koe
どこまでも遠く全部を抱きしめた
dokomademo tooku zenbu wo dakishimeta
解らないまま 何もないまま
wakaranai mama nanimo nai mama
全てを 全てで抱きしめた
subete wo subete de dakishimeta
あの時みたいに出来るかな
ano toki mitai ni dekiru kana
心が作った街で起こった事
kokoro ga tsukutta machi de okotta koto
こんなに今生きている事
konna ni ima ikite iru koto
触ったら 同じように応えて
sawattara onaji you ni kotaete
側にいて 行かないで 微笑んで 頷いて
soba ni ite ikanai de hohoen de unazuite
側にいて 行かないで 重なって 音を聴いて
soba ni ite ikanai de kasanatte oto wo kiite
側にいて 行かないで 微笑んで 頷いて
soba ni ite ikanai de hohoen de unazuite
今会えた 名前のない 涙に触らせて
ima aeta namae no nai namida ni sawarasete
どこだろう 今痛んだのは
doko darou ima itan da no wa
どこだろう あなたは光
doko darou anata wa hikari
Kanji lyrics & Roumaji lyrics & English translation from
with edits
-----------------------------------------------------
I wonder how long I will hurt now;
I haven't understood ever since my hands were exposed.
Nameless tears escape;
I have never understood the barriers of this body.
The world is a mirage, swaying like it could fade away,
like it could swallow me up.
I just clung to the gentle warmth
that overlapped, trembling.
The sound of life I heard
is quite similar, but still different.
Over and over, it changed into rain that struck my body.
In my closed eyes, countless stars
are scattered, sparkling in the broad daylight.
Alone, alone, they're in the middle of it all.
Things were found, things were lost,
and things happened in the town my heart made.
I'm living like this now,
as you teach me with the palm of your hand that's like a lie.
I held nothing as tightly as that,
as you used a shield of words to protect my form.
Nothing remains, but despite my weaknesses,
I carried a sword of purpose to clear my path.
The world is a mirage, a papier-mâché castle,
an unfading living thing that acts like it could fade away.
Thank you, for you are my light,
and only that is the reason I keep going.
The sound of myself I heard
allowed me to know my true character.
When it resounded, it shot like an arrow and returned.
Before noticing the cowards
in the mirror, we looked away.
Alone, alone, we call out for help,
aiming at each other.
The voice that taught me that I was born
is everywhere in the distance, embracing everything.
While not understanding, while having nothing,
I also held everything entirely.
I wonder if I can do it like back then,
for things happened in the town my heart made.
I'm living like this now;
when we touch, I hope you respond the same.
Stay beside me, don't go, smile with a nod.
Stay beside me, don't go, listen to the overlapping sounds.
Stay beside me, don't go, smile with a nod.
I can feel the nameless tears I met in this moment.
I wonder how long I will hurt now;
I wonder how long you'll be my light.
-----------------------------------------------------
ฉันอยากรู้ว่าคราวนี้ฉันจะเจ็บไปนานสักแค่ไหน
ฉันไม่ได้เข้าใจมาตั้งแต่มือของฉันมันโผล่ออกมา
น้ำตาที่ไร้ชื่อเสียงหลุดรอดออกไป
ฉันไม่เคยเข้าใจขอบเขตของร่างกายนี้
โลกใบนี้เป็นเพียงภาพลวงตา ส่ายไปมาเหมือนดั่งว่ามันพร้อมที่จะเลือนหายไป
เหมือนดั่งว่ามันจะกลืนกินฉันเข้าไปได้
ฉันได้แค่ยืดเหนี่ยวอยู่กับความอบอุ่นอันอ่อนโยน
ที่ทับซ้อน สั่นไหว
เสียงแห่งชีวิต ฉันได้ยินมา
ค่อนข้างจะเหมือน แต่ก็ยังแตกต่าง
ครั้งแล้วครั้งเล่า มันเปลี่ยนไปเป็นสายฝนที่กระทบร่างกายฉัน
ภายใต้ดวงตาที่หลับลงของฉัน ดวงดาวนับไม่ถ้วน
กลาดเกลื่อน ระยิบระยับภายใต้แสงตะวัน
เพียงลำพัง แค่เพียงลำพัง พวกมันอยู่ท่ามกลางมันทั้งหมด
สิ่งต่าง ๆ ถูกพบ สิ่งต่าง ๆ ถูกทำหาย
และสิ่งต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นในเมืองที่ใจฉันสร้างขึ้น
ฉันกำลังมีชีวิตอยู่อย่างนี้
ขณะที่เธอสอนฉันด้วยมือ เหมือนดั่งโกหก
ฉันไม่เคยกุมอะไรแน่นเท่านั้นมาก่อน
ขณะที่เธอใช้คำพูดดั่งโล่เพื่อปกป้องฉัน
ไม่มีอะไรหลงเหลือ แต่ถึงฉันจะมีจุดอ่อน
ฉันก็ใช้ดาบแห่งหน้าที่เปิดเส้นทางฉันไป
โลกเป็นภาพลวงตา ปราสาทกระดาษเปเปอร์มาเช่
สิ่งมีชีวิตที่ไม่จางหาย แต่ทำยังกับว่าจะเลือนหายไปได้ทุกเมื่อ
ขอบคุณ เพราะเธอเป็นดั่งแสงสว่างของฉัน
และเป็นเหตุผลเดียวที่ฉันยังคงไปต่อไป
เสียงของตนเองที่ฉันได้ยิน
ทำให้ฉันรู้ตัวตนที่แท้จริงของฉัน
เวลาที่มันสะท้อนก้องออกไป มันพุ่งไปดั่งลุกศรแล้วย้อนกลับมา
ก่อนที่จะสังเกตเห็นคนขี้ขลาด
ที่อยู่ในกระจกเงา เราต่างก็หันหน้าหนี
เพียงลำพัง แค่เพียงลำพัง เราร้องขอความช่วยเหลือ
ระหว่างกันและกัน
เสียงที่สอนให้ฉันรู้ว่าฉันได้ถือกำเนิดขึ้นมา
มันอยู่ทุกหนแห่งไกล ๆ โอบกอดทุกสิ่งทุกอย่าง
ขณะที่ไม่เข้าใจ ขณะที่ไม่มีอะไร
ฉันก็จับต้องทุกสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
ฉันอยากรู้ว่าฉันยังทำเหมือนในตอนนั้นได้ไหม
เพราะสิ่งต่าง ๆ มันเกิดขึ้นในเมืองที่ใจฉันสร้างขึ้น
ฉันกำลังมีชีวิตอยู่อย่างนี้
เวลาที่เราสัมผัสกัน ฉันหวังว่าเธอจะตอบสนองแบบเดียวกัน
อยู่เคียงข้างฉัน อย่าได้จากไป ยิ้มแล้วพยักหน้าสิ
อยู่เคียงข้างฉัน อย่าได้จากไป ฟังเสียงที่มันเหลื่อมซ้อนกัน
อยู่เคียงข้างฉัน อย่าได้จากไป ยิ้มแล้วพยักหน้าสิ
ฉันสัมผัสได้ถึงน้ำตาที่ไร้ชื่อที่ฉันพบ ณ เวลานี้
ฉันอยากรู้ว่าคราวนี้ฉันจะเจ็บไปนานสักแค่ไหน
ฉันอยากรู้ว่าเธอจะเป็นแสงสว่างให้กับฉันได้นานสักเพียงไหน
No comments:
Post a Comment